พระราชบัญญัติ
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
(ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.
๒๕๔๔
------------
ภูมิพลอดุลยเดช
ป.ร.
ให้ไว้
ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
เป็นปีที่
๕๖ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้า
ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนา
เกษตรกร
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของ
บุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บัญญัติให้
กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภา
ดังต่อไปนี้
มาตรา
๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนา
เกษตรกร
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
มาตรา
๒* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
*[รก.
๒๕๔๔/๑๐๔ก/๑๖/๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๔]
มาตรา
๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติกองทุน
ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา
๘/๑
ห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับกองทุนในเรื่องทรัพย์สิน
ของกองทุนที่ใช้หรือได้มาเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้
ทรัพย์สินของกองทุนไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
มาตรา
๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๐/๑ แห่งพระราชบัญญัติกองทุน
ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา
๑๐/๑ เพื่อจัดระบบควบคุมเงินของกองทุน ให้กองทุนจัดให้มีบัญชี
จัดการหนี้ของเกษตรกร
เพื่อใช้จ่ายในการจัดการหนี้ของเกษตรกรโดยเฉพาะ
มาตรา
๕ ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติ
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
ให้นำมาตรา
๑๖ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับแก่คณะ
กรรมการบริหารด้วยโดยอนุโลม
มาตรา
๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของมาตรา ๒๑ แห่งพระราช
บัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒
การจัดการกองทุนเกี่ยวกับบัญชีจัดการหนี้ของเกษตรกร
ให้เป็นอำนาจหน้าที่
ของคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร
มาตรา
๗ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและ
พัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
มาตรา
๒๔ สำนักงานมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑)
รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร และคณะ
กรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร
และเสนอความเห็น ศึกษาและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ
การดำเนินงานของคณะกรรมการดังกล่าว
(๒)
ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้ทราบถึงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ใน
การปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
(๓)
ให้การสนับสนุน ปรึกษาหารือ และแนะนำแก่เกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกร
เกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรตามความจำเป็น
หรือตาม
ที่เกษตรกร
หรือองค์กรเกษตรกรร้องขอ
(๔)
ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามแผนหรือโครงการฟื้นฟูและ
พัฒนาเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุน
และรายงานผลต่อคณะกรรมการบริหาร แล้วแต่กรณี
(๕)
ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรตามพระราชบัญญัตินี้
(๖)
จัดทำงบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุน และรายงานผลการปฏิบัติ
งานประจำปีของสำนักงานเสนอคณะกรรมการ
(๗)
ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร และคณะ
กรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรมอบหมาย
มาตรา
๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด ๕/๑ การแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกร
มาตรา
๓๗/๑ ถึงมาตรา ๓๗/๑๐ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.
๒๕๔๒
หมวด
๕/๑
การแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกร
-----------
ส่วนที่
๑
บททั่วไป
-----------
มาตรา
๓๗/๑ ในหมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
หนี้
หมายความว่า หนี้อันเนื่องมาจากการประกอบเกษตรกรรมของเกษตรกร
ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรเกษตรกร
หนี้ในระบบ
หมายความว่า
(๑)
หนี้ที่เกิดขึ้นจากโครงการส่งเสริมของรัฐ
(๒)
หนี้ที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
(๓)
หนี้ที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมจากสถาบันเกษตรกร
โครงการส่งเสริมของรัฐ
หมายความว่า โครงการของกระทรวง ทบวง กรม
ราชการส่วนภูมิภาค
หรือรัฐวิสาหกิจ
สถาบันการเงิน
หมายความว่า
(๑)
ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์
(๒)
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(๓)
นิติบุคคลตามที่คณะกรรมการกำหนด
สถาบันเกษตรกร
หมายความว่า นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์
ส่วนที่
๒
คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร
------------
มาตรา
๓๗/๒ ให้มีคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรประกอบด้วย ปลัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรม
ส่งเสริมสหกรณ์
ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ผู้
แทนสมาคมธนาคารไทย
กรรมการซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งจากกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนเกษตรกรใน
คณะกรรมการเก้าคน
และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยว
ชาญมีผลงานและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องทางสาขาเศรษฐศาสตร์
สาขาการบริหาร การเงินหรือ
การธนาคาร
และสาขาเกษตรศาสตร์ สาขาละหนึ่งคนเป็นกรรมการ
ให้คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรเลือกกรรมการด้วยกันเองเป็นประธาน
กรรมการและรองประธานกรรมการ
ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
และผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ของ
เกษตรกรเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ให้นำมาตรา
๑๖ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับแก่คณะ
กรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรด้วยโดยอนุโลม
มาตรา
๓๗/๓ คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑)
ดำเนินการตามแผนแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรตามที่คณะกรรมการให้
ความเห็นชอบ
(๒)
ควบคุมการใช้จ่ายเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนในบัญชีจัดการหนี้ของ
เกษตรกร
ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ นโยบาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ
และคำสั่งของคณะ
กรรมการ
(๓)
เสนอและรายงานต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับการดำเนินงานของกองทุนใน
บัญชีจัดการหนี้ของเกษตรกร
(๔)
กำหนดหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร
(๕)
ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่เลขาธิการในการดำเนินการตามพระราช
บัญญัตินี้
(๖)
แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
(๗)
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้
หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็น
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร
หรือตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
มาตรา
๓๗/๔ กรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรอาจได้รับเบี้ยประชุม
ค่าพาหนะ
ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก
และค่าใช้จ่ายอย่างอื่นในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ
นี้
ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
โดยให้จ่ายจากเงิน
กองทุนในบัญชีจัดการหนี้ของเกษตรกร
ส่วนที่
๓
การจัดการหนี้ของเกษตรกร
----------
มาตรา
๓๗/๕ ให้จัดตั้งสำนักขึ้นในสำนักงาน เรียกว่า สำนักจัดการหนี้ของ
เกษตรกร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรตามที่คณะกรรมการ
และคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรกำหนด
ให้มีผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ของเกษตรกรเป็นผู้ควบคุมดูแลสำนัก
และอยู่
ภายใต้บังคับบัญชาของเลขาธิการ
สำหรับโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของสำนักให้เป็นไปตามที่
คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรกำหนด
มาตรา
๓๗/๖ เกษตรกรซึ่งเป็นหนี้ในระบบ และประสงค์ขอรับการสนับสนุนจาก
กองทุน
ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรต่อสำนักจัดการหนี้ของเกษตรกรตามหลักเกณฑ์ที่คณะ
กรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรประกาศกำหนด
เมื่อได้รับคำขอขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง
ให้สำนักจัดการหนี้ของเกษตรกรทำ
การตรวจสอบหลักฐานถึงความมีอยู่จริงของหนี้และหลักประกันที่ถูกต้องตามกฎหมาย
รวมทั้ง
จำแนกแยกประเภทหนี้ของเกษตรกรตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร
กำหนด
มาตรา
๓๗/๗ เกษตรกรซึ่งเป็นหนี้ในระบบตามโครงการส่งเสริมของรัฐโครงการ
ใดที่คณะกรรมการเห็นว่าไม่ประสบความสำเร็จ
โดยมิใช่ความผิดของเกษตรกร ให้พิจารณาช่วย
เหลือโดยให้กองทุนรับภาระชำระหนี้นั้นให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้
โดยจะ
ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน
การชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรตามวรรคหนึ่ง
ให้จ่ายเป็นเงินสด
พันธบัตรรัฐบาล
หรือตั๋วเงินตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
ให้จัดสรรงบประมาณแผ่นดินเข้าสมทบกองทุนสำหรับการดำเนินการตาม
วรรคหนึ่ง
มาตรา
๓๗/๘ เกษตรกรตามความในมาตรา ๓๗/๗ ที่ได้รับการยกเลิกหนี้
ทั้งหมดหรือบางส่วนจากคณะกรรมการ
ต้องเข้ากระบวนการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตาม
ระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา
๓๗/๙ เกษตรกรซึ่งเป็นหนี้ในระบบที่มิใช่โครงการส่งเสริมของรัฐ
เมื่อ
คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรอนุมัติโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการให้มีอำนาจ
หน้าที่จัดการหนี้ของเกษตรกรรายใดแล้ว
ให้คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรมีอำนาจชำระ
หนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรทั้งหมดหรือบางส่วนได้
โดยการจ่ายเป็นเงินสด พันธบัตรรัฐบาล หรือ
ตั๋วเงิน
ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
เมื่อกองทุนรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรตามวรรคหนึ่งแล้ว
ให้
ทรัพย์สินของเกษตรกรที่ใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ตกเป็นของกองทุน
และเกษตรกรจะได้รับ
ทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันคืนไปจากกองทุนโดยการเช่าซื้อ
หรือซื้อ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
ให้คณะกรรมการมีอำนาจผ่อนผันการชำระหนี้
ลดหนี้ ปลดหนี้ ให้แก่เกษตรกร
ได้โดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
และรัฐพึงจัดสรรงบประมาณอุดหนุนในส่วนที่กองทุนต้องรับ
ภาระค่าใช้จ่ายนี้
การดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนตาม
วรรคหนึ่ง
ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
และให้เกษตรกรผู้นั้นเข้าสู่กระบวนการ
ฟื้นฟูตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา
๓๗/๑๐ กองทุนและเกษตรกรที่เกี่ยวข้องในกิจการใดที่กฎหมายกำหนด
ให้จดทะเบียนในอสังหาริมทรัพย์
หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชบัญญัตินี้
ให้กองทุนและเกษตรกรได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม
และภาษีอากรในการจดทะเบียนนั้น ไม่ว่า
จะเป็นในฐานะผู้โอนหรือผู้รับโอนก็ตาม
การยกเว้นภาษีอากรตามวรรคหนึ่ง
ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามประมวล
รัษฎากร
โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขไว้ด้วยก็ได้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ
:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ
เนื่องจากพระราชบัญญัติกองทุน
ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และแนวทางการแก้ไข
ปัญหาหนี้ของเกษตรกรอันเนื่องจากโครงการส่งเสริมของรัฐที่ไม่ประสบผลสำเร็จไว้อย่างชัดเจน
เกษตรกรไม่สามารถได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพื่อแก้ปัญหาหนี้เดิมของเกษตรกรที่เป็นหนี้ใน
ระบบเป็นเหตุให้เกษตรกรเหล่านั้นไม่มีโอกาสฟื้นฟูอาชีพและดำรงชีพในด้านเกษตรกรรมได้อย่าง
มั่นคง
จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
พรพิมล/แก้ไข
๑๑/๓/๒๕๔๕
A+B
(C)