สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
สาขาจังหวัดบุรีรัมย์
ข่าวความเคลื่อนไหว




ที่ 05-04-2545


 

สภาที่ปรึกษาชำแหละยับ กองทุนฟื้นฟูเกษตรกรเละ
 
 
 
    สภาที่ปรึกษาฯ ตั้งกรรมการศึกษา ทุกปัญหาของคนจน แฉเละทั้งนักการเมือง - ข้าราชการแทรกแซงกองทุนฟื้นฟูฯ หวังดึงเป็นฐานเสียง เชื่อโครงการล้มแน่ “บวรศักดิ์” เตือน ต้องติดอาวุธทางอำนาจให้คนจน  ที่ประชุมสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เมื่อวันที่  4  เม.ย. ได้พิจารณาปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกสหพันธ์ เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.)  และสมาชิกสมัชชาเกษตรกรรายย่อย (สกย.อ.) โดยมีนายเวียงชัย ศิริวิพัฒน์ สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ  เป็นผู้รายงานข้อเสนอ ของ สกย.อ.ที่ขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรตามพระราช บัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2544 ตลอดจนปัญหา ความเป็นอิสระของกองทุน นายเวียงชัยกล่าวว่า ประเด็นสำคัญของพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้คือการจัดตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งมีผลบังคับใชั ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 44 แต่พบว่าไม่ได้มีการนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับ เกษตรกรแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ทั่วประเทศมีจำนวน 3 แสนล้านบาท เป็นหนี้ของเกษตรกรกว่า  20  ล้านคน  และเป็นหนี้ของกลุ่ม สถาบันการเงินที่ไม่ถึง 1,000 คน แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ให้ความสนใจที่จะแก้ ปัญหาหนี้ให้เกษตรกรอย่างจริงใจ  ทั้งที่มีกฎหมาย  ทำให้เกษตรกรกลับมา เรียกร้องอีกครั้ง “ตั้งแต่เริ่มตั้งกองทุน  มีสมาชิกร่วมกองทุนเป็นจำนวน มากประมาณ  6 ล้านราย เป็น สกย.อ.ประมาณ 4 แสนราย คนเหล่านี้ก็ตั้ง ความหวังว่า รัฐบาลจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหมือนบรรษัทบริหารสินทรัพย์ ไทย (ทีเอเอ็มซี) ที่รับซื้อหนี้ของสถาบันการเงิน  เข้ามาบริหารและแก้ไข ปัญหาให้กับสถาบันการเงินทั้งหลาย  ซึ่งกองทุนเองก็มีหลักการรับซื้อหนี้ของ เกษตรกร แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข” นายเวียงชัยกล่าว  นายสังศิต  พิริยะรังสรรค์  สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ กล่าวว่า มีส่วนร่วมผลักดันพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยการจัดตั้งองค์กรอิสระ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เริ่มดำเนินการกลับมีการแทรกแซงจากนักการเมืองและ ข้าราชการ โดยจ้างบุคคลเข้าไปบริหารกองทุนด้วยเงินนับแสนบาท เท่ากับค่าจ้างของนายธนาคาร “ความจริงบุคคลที่จะเข้าไปช่วยเหลือคนยากจนจริงๆ  ไม่จำ เป็นต้องจ้างแพงถึงขนาดนั้น จนกลายเป็นเครื่องเล่นของนักการเมือง  ที่เอาไว้แจกจ่ายเงินทองให้กับมวลสมาชิก และเพื่ออาศัยเป็นฐานเสียง  และน่าแปลกใจมาก  ทำไมอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของบุคคลที่เข้าทำงานจึงเริ่ม ตั้งแต่  50,000 บาทขึ้นไป หากกองทุนยังเป็นอย่างนี้โดยที่มีกลุ่มนักการเมือง เข้าไปบริหารหรือแทรกแซง  เชื่อว่าโครงการนี้ต้องล้มแน่นอน   องค์กรนี้จะ กลายเป็นที่เลี้ยงคนทำงานทางการเมือง  เราต้องแก้ไขปัญหาให้ได้” นายสังศิต กล่าว นายชุมพล   พรประภา  รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ กล่าวว่า  กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องมีความเป็นอิสระ  ปราศจากคนของนักการเมืองหรือตัว แทนภาครัฐ  ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาและหาข้อเสนอ แนะต่อรัฐบาล ประกอบด้วย นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม และนายสังศิต ดำเนินการศึกษาประเด็นข้อเรียกร้อง  ทั้งปัญหาป่าไม้  ที่ดินในเขตป่า  การถือครองที่ดิน การจัดการน้ำ ราคาพืชผล หนี้สินของเกษตรกร ชนเผ่าและ สัญชาติ โครงการรัฐที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความเป็นอิสระของกอง ทุนฟื้นฟูฯ และศึกษาการเข้าไปแทรกแซงของนักการเมือง ส่วนนายบวรศักดิ์  อุวรรณโณ  เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า  กล่าวว่า  การแก้ไขปัญหาความยากจนต้องแก้ไขทั้งระบบด้วยการสร้างอำนาจ ให้กับคนจน  ซึ่งต้องมีการปรับปรุงกฎหมายต่างๆ และระบบภาษีที่ไม่เอื้อต่อ เกษตรกร เพื่อเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น “ปัญหาของคนจนไม่ใช่เรื่องของสังคมอีกต่อไป  แต่กลายเป็น เรื่องเศรษฐกิจแล้ว หากแก้ไขความยากจนได้  ความยั่งยืนของระบอบ ประชาธิปไตยก็จะเพิ่มมากขึ้น  ที่สำคัญต้องแก้ไขปัญหาการเมือง และ เศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะการทุจริตคอรัปชั่น หากไม่สามารถแก้ ได้ ต่อให้แก้ปัญหาจนตายก็ไม่สามารถแก้กฎปัญหาได้หมด” นายบวรศักดิ์ กล่าว เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้ากล่าวด้วยว่า  สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ  ในอนาคตแทบจะไม่ต้องใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพราะ รัฐบาลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น  โดยสั่งให้ข้าราชการเขียนแผนอย่างไรก็ได้ ซึ่งขณะนี้มีการส่งสัญญาณแล้ว  เพราะแนวคิดของรัฐบาลต้องการให้พรรคการ เมืองใหญ่ 2  พรรคใช้นโยบายพรรคเข้ามาบริหารประเทศ  จึงไม่ต้องอาศัย แผนของสภาพัฒน์ ซึ่งทุกวันนี้ก็แทบจะไม่ได้ใช้  เช่น  การกู้เงินจากต่าง ประเทศก็ไม่ได้ดำเนินการตามแผน แต่ทำตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ประชุมสภาการที่ปรึกษาฯ ยังได้พิจารณาเห็นว่า  การจัดจ้าง โดยวิธีจ้างเหมาเบ็ดเสร็จหรือเทิร์นคีย์ ตามที่คณะทำงานได้ศึกษาพบว่า ก่อให้เกิดจุดรั่วไหลของงบประมาณ และยังพบว่ามี 4 โครงการที่รัฐจะต้อง เสียประโยชน์คือ โครงการก่อสร้างทางหลวงวงแหวนกาญจนาภิเษกด้านใต้ ช่วงสุขสวัสดิ์-บางพลี ระยะทาง  20 ก.ม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถนนวงแหวน รอบนอก ระยะทางรวม 170 ก.ม. โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างทางด่วนสายบางนา-บางปะกง และโครงการก่อสร้างบ่อ บำบัดน้ำเสีย จ.สมุทรปราการ 
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์

กลับไปหัวข้อข่าว

Send mail to CompanyWebmaster with questions or comments about this web site.
Last modified: