สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
สาขาจังหวัดบุรีรัมย์
 

วันที่ 09-05-2545
วันที่ 09-05-2545


 

แย้มผลงานรัฐบาลฟื้นฟูหลังพักหนี้ ปีแรกไม่เห็นผลปี45ทุ่มอีก4พันล.
 
 
 
    แม้เกษตรกรจะยกทัพมาชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้ดำเนินการแก้ปัญหาอาชีพเกษตรและหนี้สินตามแนวทางของเกษตรกรสร้างขึ้นมากับมือเอง คือ พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ด้านรัฐบาลก็ยังมุ่งมั่นเดินหน้าตามนโยบาย พักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี อย่างมั่นใจ แม้ปีแรกที่ผ่านมายังไม่ผลงานเป็นรูปธรรมมากนัก  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฟื้นฟูเกษตรกรหลังพักชำระหนี้ได้แบ่งกลุ่มเกษตรกรที่เข้าโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรจำนวน 1,171,817 ราย ออกเป็น 3 กลุ่ม (ไม่รวมเกษตรกรที่ขอลดภาระหนี้) ประกอบด้วย กลุ่มเงินออมเพียงพอ กลุ่มเงินออมไม่เพียงพอ และกลุ่มที่ต้องการปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ทั้งหมด  เกษตรกรทั้ง 3 กลุ่มจะเป็นผู้ยื่นคำร้องขอเข้าโครงการฟื้นฟู และตัดสินใจเลือกวิธีการฟื้นฟูด้วยตัวเอง หลังได้รับการอบรมหลักสูตรพื้นฐาน ได้แก่การจัดการดิน การทำบัญชีฟาร์ม และการจัดการกลุ่ม รวมทั้งหลักสูตรการฟื้นฟูอาชีพ ซึ่งเกษตรกรได้แสดงความจำนงไว้ตั้งแต่ขั้นยื่นคำร้องขอเข้ารับการฟื้นฟูแล้ว หลังการอบรม เกษตรกรจะต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าจะยังคงเลือกการฟื้นฟูตามแนวทางเดิมที่ลือกไว้ในครั้งแรกและได้อบรมความรู้เบื่องต้นไปแล้ว หรือจะเปลี่ยนแผนฟื้นฟูแบบใหม่  เมื่อตกผลึกความคิด คณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล ซึ่งเป็นตัวแทนชุมชนได้จัดลำดับความสำคัญของปัญหา และเสนอให้คณะอนุกรรมการโครงการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรหลังการพักชำระหนี้ระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณาวางแผนสนับสนุน  วิธีการจัดการแบบนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกว่า เป็นการแก้ไขปัญหาแนวใหม่ซึ่งให้อำนาจชุมชนและเกษตรกรเป็นผู้ตัดสินใจวางแผนร่วมกัน จากนั้นรัฐบาลก็เข้าไปสนับสนุนการแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล  ดังนั้นแม้กลไกการแก้ปัญหาจะเป็นไปในลักษณะเดียวกันทั่วประเทศ คือมีคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด และมีศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล แต่รูปแบบการแก้ไขปัญหานั้นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะปัญหาของเกษตรกรแต่ละราย เช่น มีเกษตรกรเข้าโครงการหนึ่งแสนรายก็จะมีรูปแบบการแก้ไขปัญหาหนึ่งแสนวิธี เป็นต้น  เบ็ดเสร็จแล้วในปี 2544 กระทรวงเกษตรฯ ได้ใช้วิธีนี้ช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วกว่า 135,000 ราย ใช้งบประมาณกว่า 370 ล้านบาท  นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการตามนโยบาย กล่าวว่า การฟื้นฟูเกษตรกรหลังพักชำระหนี้แตกต่างจากการฟื้นฟูอาชีพที่กระทรวงเกษตรฯทำมาในอดีต อย่างชัดเจน คือเน้นแก้ปัญหารายบุคคล มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการสร้างรายได้ให้เกษตรกรเดือนละ 1 หมื่นบาท และเป็นการสร้างอาชีพที่ยังยืน มีใช้วิธีการจัดการงบประมาณแบบบูรณาการและหน่วยราชการในพื้นที่ต้องประสานกันมากขึ้นและให้อำนาจชุมชนร่วมตัดสินใจ  จากเดิมที่ไม่เน้นแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล เป้าหมายอยู่ที่การพัฒนา และต่างคนต่างทำ แม้จะมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่เมื่อเดินตามแนวทางดังกล่าว ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้เต็มร้อย เพราะถ้าไม่มีอาชีพเกษตรกรก็จะอยู่ไม่ได้  สำหรับในปี 2545 กระทรวงเกษตรฯตั้งเป้าหมายจะเข้าฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรหลังการพักชำระหนี้จำนวน กว่า 815,000 ราย ใช้งบประมาณ 4,257.29 ล้านบาท เมื่อรวมผู้เข้าโครงการในปี 2544 จะมีผู้เข้ารับการฟื้นฟูอาชีพรวมกว่าร้อยละ 90 ของผู้เข้าโครงการทั้งหมดงบประมาณในปี 2546 จึงจะเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ที่ยังไม่ได้เข้าโครงการและจะนำไปใช้ในการสนับสนุนแผนฟื้นฟูอาชีพเพิ่มเติมแก่เกษตรกรที่เข้าโครงการไปก่อนแล้ว 
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน

 

 
Send mail to CompanyWebmaster with questions or comments about this web site.
Last modified: