แนวทางการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
เกษตรกร : หมายความว่า บุคคลธรรมดา ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2543 ว่าด้วยเกษตรกร
เกษตรกรรม:
ภายใต้พระราชบัญญัตินี้มีความหมายครอบคลุมอย่างกว้างขวางในเรื่อง
1.การเพาะปลูก
2.การเลี้ยงสัตว์
3.การจับสัตว์น้ำ
4.การใช้และบำรุงรักษาทรัพยากรจากที่ดิน น้ำ และป่าไม้อย่างยั่งยืน
5.กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันกับ 4 ข้อแรก คือ
5.1 การสร้างมูลค่าเพิ่ม
5.2 การแปรรูป
5.3 การจำหน่าย
6.การอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
แผนงานโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
จึงมีลักษณะของกิจกรรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากกองทุน
คือ
1.กิจกรรมการรวมกลุ่มของเกษตรกร
ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการแก้ไขปัญหาของเกษตร
2.กิจกรรมที่เป็นการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกรทั้งที่เป็นรายบุคคลและกลุ่ม
3.กิจกรรมที่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรทั้งด้านความรู้ในด้านเกษตรกรรม
หรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม
4.กิจกรรมที่พัฒนาศักยภาพในการพึ่งพาตนเองและเกื้อกูลซึ่งกันและกันระหว่างเกษตรกร
แนวทางการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ได้กำหนดไว้ในหลายมาตราของพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยเรียงลำดับดังต่อไปนี้
1.แหล่งเงินและทรัพย์สินของกองทุน มาจาก (มาตรา 6)
-
เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้
-
เงินอุดหนุนจากรัฐบาล หรือที่ได้รับจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
-
เงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการบริจาค
-
เงินที่ได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุน
-
เงินหรือทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุน
-
ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
-
รัฐพึ่งจัดสรรงบประมาณแผ่นดินสมทบกองทุนเท่าที่จำเป็น
ในกรณีกองทุนมีจำนวนเงินไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงานแลภาระต่าง
ๆที่เหมาะสม
2.กองทุนมีอำนาจกระทำกิจกรรม โดยวัตถุประสงค์
และรวมถึงกิจกรรมสำคัญดังต่อไปนี้ คือ (ตามมาตรา 8 )
1.ให้องค์กรเกษตรกรผู้กู้ยืม เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาการเกษตร
2.กู้ยืมเงินเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุน
3.ลงทุนหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของกองทุน
4.ถือกรรมสิทธิ์ หรือกระทำนิติกรรมใด ๆ ทั้งในและนอกราชอาณาจักร
5.กระทำการอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องในการจัดให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกองทุน
6.กระทำอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องในการจัดให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกองทุน
3.แนวทางสนับสนุนการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
1)เกษตรกรที่รวมตัวเป็นกลุ่มหรือคณะเพื่อประกอบเกษตรกรราร่วมกัน
เป็นนิติบุคคลหรือไม่เป็นนิติบุคคลสามารถขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรเกษตรกรตามพระราชบัญญัตินี้
โดยให้ยื่นคำขอต่อสำนักงานหรือสำนักงานสาขา (มาตรา 30)
ตามระเบียบการรับขึ้นทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนองค์กรเกษตรกรที่คณะกรรมการกำหนด
2)องค์เกษตรกรมีสิทธิ์ขอรับการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรโดยให้ทำแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรยื่นต่อสำนักงานสาขาที่เป็นที่ตั้งขององค์กรเกษตร
3)แผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างน้อยต้องมีองค์ประอบดังต่อไปนี้
(มาตรา 32 )
-หมายเลขทะเบียนขององค์กรเกษตรกร
-รายชื่อของเกษตรกรทั้งหมดขององค์กรเกษตรกร
-รายละเอียดแห่งสินทรัพย์ หนี้สิน และภาระผูกพันต่าง ๆ ขององค์กรเกษตรกร
และเกษตรกรแต่ละคนที่เป็นสมาชิกขององค์กรในขณะที่ยื่นแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
-เหตุผลที่เสนอแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
-ระยะเวลาในการดำเนินงานตามแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
-รายละเอียดพอสังเขปของโครงการแต่ละโครงการ
-รายชื่อของผู้ให้การสนับสนุนแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรพร้อมรายละเอียดในการให้สนับสนุน
(ถ้ามี)
4.การพิจารณาอนุมัติแผนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( มาตรา 33,34,35)
1.เลขาธิการมีอำนาจพิจารณาอนุมัติโครงการที่มีเงิน ไม่เกินห้าแสนบาท
2.คณะกรรมการบริหาร มีอำนาจพิจารณาอนุมัติโครงการที่มีวงเงินไม่เกินกว่าห้าแสนบาท
3.คณะกรรมการบริหารและเลขาธิการฯ
อาจเห็นชอบแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
โดยกำหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใดให้ปฏิบัติด้วยก็ได้ (มาตรา 35)
4.แจ้งผลการพิจารณาให้องค์กรเกษตรกรทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแผนในกรณีที่ไม่อนุมัติตามแผนให้แจ้งเหตุผลโดยย่อ
(มาตรา 33)
5.องค์กรเกษตรกรมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ ภายใน 30 วัน
นับแต่วันที่ได้รับคำวินิจฉัย
และคณะกรรมการต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน
นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ (มาตรา 33)
6.การดำเนินงานและการรายงานผล (มาตรา 36 )
6.1ให้องค์กรเกษตรกรรายงานผลการดำเนินงานตามแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรต่อสำนักงานตามเงื่อนไข
และระยะเวลาตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
6.2ให้สำนักงานตรวจสอบประเมินผลการดำเนินการตามหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติ
ให้แจ้งองค์กรเกษตรกรทำการแก้ไขปรับปรุงภายในระยะที่กำหนด
และในกรณีที่เห็นสมควรอาจมีคำสั่งให้พักการจ่ายเงินตามแผนหรือโครงการในระหว่างนั้นก็ได้
6.3ให้องค์กรเกษตรกรมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการบริหารตามข้อ 2
ต่อ คณะกรรมการได้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
|