(1)ในกรณีองค์กร เป็นนิติบุคคล
1.สำเนาทะเบียนจัดตั้งกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สำเนาอนุญาตให้จัดตั้ง
สำเนาแสดงการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
2.สำเนาเอกสารแสดงวัตถุประสงค์ ระเบียบ ข้อบังคับขององค์กร
3.สำเนาบัญชีรายชื่อคณะกรรมการดำเนินการปัจจุบัน (กฟก 2)
4.ทะเบียนสมาชิก พร้อมลายชื่อของสมาชิกทุกคน (กฟก 3)
5.แบบ กฟก 1
(2)ในกรณี ไม่เป็นนิติบุคคล
1.สำเนาเอกสารแสดงประวัติโดยย่อขององค์กร (ข้อ 8 ในแบบ กฟก 1 )
และรายชื่อกรรมการบริหารขององค์กรปัจจุบัน (กฟก 2)
2.สำเนาแสดงวัตถุประสงค์ ระเบียบ ข้อบังคับ ( ข้อ 9 ในแบบ กฟก 1 )
3.สำเนาเอกสารแสดงกิจการที่ทำร่วมกันที่ผ่านมา (ข้อ 7 ในแบบ กฟก 1)
4.ทะเบียนสมาชิก พร้อมลายมือชื่อของสมาชิกทุกคน (กฟก 3)
เมื่อสำนักงานกองทุนจังหวัดตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร
และตรวจสอบความซ้ำซ้อนของสมาชิกเกษตรกรผู้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จะนำเสนอคณะอนุกรรมการจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติรับขึ้นทะเบียน
โดยสำนักงานจะประกาศผลการพิจารณาอนุมัติองค์กรเกษตรและจะแจ้งผลการรับขึ้นทะเบียน
(แบบ กฟก 4) ให้องค์กรเกษตรกรทราบและจะออกหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียน (แบบ กฟก
5 ) ให้แก่องค์กรเกษตรกรนั้น ๆ
เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นเสนอแผนและโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนต่อไป
ทั้งนี้
การอนุมัติรับขึ้นทะเบียนไม่ถือเป็นข้อผูกพันกับการพิจารณาสนับสนุนโครงการ
หลังจากคณะอนุกรรมการจังหวัดพิจารณาอนุมัติ
แล้วให้สรุปรายงานให้สำนักงานใหญ่นำเข้าประชุมคณะกรรมการบริหารฯ เพื่อทราบต่อไป
ในกรณีที่องค์กรเกษตรกรไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและความซ้ำซ้อนให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.การอนุมัติแผนโครงการ
คณะอนุกรรมการจึงหวัดเป็นผู้พิจารณาอนุมัติแผนงานหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ยื่นต่อสำนักงานสาขาตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารกองทุนตามกรอบของระเบียบว่าด้วย
การพิจารณาแผนและโครงการ การจ่ายเงิน การใช้คืนเงินกองทุน
และการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนและครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
และกรอบการจัดสรรงบประมาณกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
2.หลักเกณฑ์การอนุมัติ
การพิจารณาหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติแผนงานหรือโครงการ
อยู่กับสภาพความเป็นจริงของแผนงานหรือโครงการที่องค์กรเกษตรกรในจังหวัดนั้นเสนอเข้ามาสู่กระบวนการพิจารณาและคณะอนุกรรมการจังหวัดต้องคำนึงถึงยุทธศาสตร์การฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรของจังหวัดที่สัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับยุทธศาสตร์ของภาคและของประเทศโดยภาพรวม
3.การจัดสรรเงินสนับสนุน
กรอบการจัดสรรและอนุมัติเงินสนับสนุนแผนงานหรือโครงการขององค์กรเกษตรกรแบ่งเป็น
2 ประเภทคือ
1)เงินอุดหนุน ใช้ในการพัฒนาระบบสนับสนุนและระบบบริการแก่องค์กรเกษตรกร
และเครือข่ายขององค์กรเกษตรกร
2)เงินกู้ยืม
ใช้สนับสนุนกิจกรรมของเกษตรกร
และขององค์กรเกษตรกรที่เสนอขอกู้ยืมตามแผนหรือโครงการที่องค์กรเกษตรกรเสนอขอรับการสนับสนุนโดยคิดอึตราค่าบริการร้อยละ
1 ต่อปี เพื่อจัดเป็น กองทุนพัฒนาสถาบันเกษตรกรของจังหวัด
เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาองค์กรของจังหวัด
แต่อัตราค่าบริการของเงินกู้ยืมที่องค์กรเกษตรกรนำไปให้เกษตรกรสมาชิกกู้ยืมให้คิดในอัตราไม่เกินร้อยละ
5 ต่อปี ซึ่งส่วนต่างของอัตราค่าบริการนี้ ให้องค์กรเกษตรกรจังหวัด
กองทุนพัฒนาศักยภาพองค์กรเกษตรกร
เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพขององค์กรเกษตรกร
แต่สำหรับองค์กรเกษตรกรที่มีสมาชิกนับถือศาสนาอิสลาม
ให้คิดค่าบริการจากผลกำไรจากกิจกรรมที่ได้รับการสนับสนุนในอัตรา 20 % ต่อปี
ของผลกำไรที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรของจังหวัด
และจัดตั้ง กองทุนศักยภาพขององค์กรเกษตรกร ในสัดส่วนที่เท่ากัน
4.วงเงินแต่ละจังหวัด
กรอบวงเงินจัดสรรของแต่ละจังหวัด คำนวณและจัดสรรโดยใช้ตัวดัชนี 4 ตัว คือ
จำนวนเกษตรกร (30%) หนี้สินค้างชำระของเกษตรกร (30%)
พื้นที่ถือครองทางการเกษตรเฉลี่ยต่อครัวเรือน (20%)
และรายได้ภาคเกษตรกรต่อครัวเรือนต่อปี (20%)
เป็นกรอบการจัดสรรวงเงินให้แต่ละจังหวัดตามวงเงินของกองทุนที่มีอยู่ในแต่ละปี
หากจังหวัดใดมีแผนหรือโครงการที่ดีมีคุณภาพผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติของคณะอนุกรรมการจังหวัด
แต่มีวงเงินเกินกว่าวงเงินจัดสรรของจังหวัด
ให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจในการเฉลี่ยวงเงินที่มีเหลืออยู่ของจังหวัดอื่นในภาคเดียวกันและต่างภาคกันพร้อมทั้งแสวงหาเงินทุนมาเพิ่มให้พอเพียงเป็นประจำทุกปี
โดยกระบวนการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
5.หลักการและแนวทางในการพิจารณาอนุมัติโครงการตามที่กฎหมายกำหนดมี 4 แนวทาง
คือ
1)อนุมัติตามแผนหรือโครงการที่องค์เกษตรกรขอรับสนับสนุน
2)อนุมัติตามแผนหรือโครงการโดยกำหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใดให้ปฏิบัติ
3) อนุมัติในหลักการโดยกำหนดเงื่อนไขให้ดำเนินการตามที่เห็นสมควร
แล้วจึงนำเสนอแผน หรือโครงการเพื่อพิจารณาอนุมัติอีกครั้ง
4) ให้การสนับสนุนเป็นวงเงินอุดหนุนแก่องค์กรเกษตรกร
เพื่อนำไปพัฒนาแผนหรือโครงการ ให้สมบูรณ์ แล้วจึงนำเสนอแผนหรือโครงการ
เพื่อพิจารณาอนุมัติอีกครั้ง
6.หลักการวิเคราะห์โครงการและสรุปผลการวิเคราะห์โครงการ
เพื่อเสนอให้คณะกรรมอนุกรรมการจังหวัดพิจารณาอนุมัติมีดังนี้ คือ
1)เมื่อแบบนำเสนอแผนงานหรือโครงการ ได้ผ่านการกลั่นกรองเบื้องต้นแล้ว
คือมีเอกสารครบถ้วนตามแบบนำเสนอแผนงานหรือโครงการ
และเป็นองค์กรเกษตรกรที่มีหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนแล้ว
2)กลุ่มหรือทีมวิเคราะห์แผนหรือโครงการต้องเป็นบุคคลที่มีความเป็นกลาง
มีคุณธรรม
มีความรู้ความสามารถและเสนอผลการวิเคราะห์แผนงานหรือโครงการตามความเป็นจริง
ไม่โน้นเอียงไปตามความ เชื่อ อิทธิพลและผลประโยชน์ที่ได้รับ
3)การวิเคราะห์แผนหรือโครงการจะต้องศึกษาข้อมูลตามเอกสารและลงศึกษาวิเคราะห์โครงการในพื้นที่จริงขององค์กร
แล้วสรุปผลการศึกษาวิเคราะห์โครงการเป็น 3 ส่วนที่สำคัญ
3.1) ผลการวิเคราะห์โครงการเชิงปริมาณ โดยมีการให้ตั้งเกณฑ์เครื่อง
ชี้วัดใน 5 ด้าน ที่สำคัญคือ
(1)ความเข้มแข็งขององค์กรเกษตรกร
หรือเครือข่ายองค์กรเกษตรกรนำเสนอแผนด้วยตนเองเพื่อสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตรง
(2)ความเหมาะสมและเป็นไปได้ของแผนงานหรือโครงการ
(3)ผลประโยชน์ของแผนงานหรือโครงการ
(4)ความเป็นไปได้ของแผนการใช้คืนทุน
(5)ความยั่งยืนและการพึ่งตนเองได้
3.2 )ผลการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
โดยสรุปผลการศึกษาวิเคราะห์จากเอกสารและการลงไปในพื้นที่จริงโดยการสรุปผลเชิงพรรณาที่สัมพันธ์สอดคล้องกับผลสรุปเชิงปริมาณ
3.3)สรุปความเห็นจากการวิเคราะห์แผนหรือโครงการ
ที่เป็นทางเลือกสำหรับการพิจารณาอนุมัติของคณะอนุกรรมการจังหวัด
โดยมีเหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
7.
กระบวนการพิจารณาอนุมัติแผนหรือโครงการ
คณะอนุกรรมการจังหวัดในการพิจารณาอนุมัติแผนหรือโครงการ
ควรมีขั้นตอนสำคัญดังนี้ คือ
1)ต้องให้ผู้แทนขององค์กรเกษตรกร หรือผู้แทนเครือข่ายองค์กรเกษตรกรเสนอแผน
และโครงการด้วยตนเอง
เพื่อสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกองทุนโดยตรง
2)เมื่อวิเคราะห์แผนหรือโครงการแล้วให้นำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์แผนหรือโครงการจากเอกสารและการลงพื้นที่จริง
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา
3)คณะอนุกรรมการจังหวัด
ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติตามที่ได้มีการพัฒนาไว้ของแต่ละจังหวัด
4)เมื่อคณะอนุกรรมการจังหวัดมีมติแล้วให้แจ้งผลต่อผู้แทนขององค์กรเกษตรกรทราบและให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประสานและดำเนินการให้เป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการจังหวัดต่อไป
8.
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติ
แบบนำเสนอแผนหรือโครงการและแนวทางการวิเคราะห์แผนหรือโครงการรวมทั้งกระบวนการพิจารณาอนุมัติของคณะอนุกรรมการจังหวัด
ให้ทุกจังหวัดร่วมกันสรุปบทเรียนจากการดำเนินงานจริงและปรับปรุงให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละจังหวัดได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ให้ขัดแยง
พ.ร.บ. และระเบียบที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวนี้
9.หลักประกันการกู้ยืมเงิน แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1)บุคคลค้ำประกัน
โดยให้สมาชิกขององค์กรเกษตรกรที่ขอรับการสนับสนุนค้ำประกันเงินที่ขอกู้ยืมร่วมกันสำหรับองค์กรเกษตรกรที่ไม่เป็นนิติบุคคล
หรือตามระเบียบข้อบังคัลขององค์กรเกษตรกรที่เป็นนิติบุคคล
2)ใช้ทรัพย์สินอันจากการใช้เงินกู้ยืมจากกองทุนมาผูกพันเป็นประกัน