สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
สาขาจังหวัดบุรีรัมย์
แนวทางการฟื้นฟูและพัฒนา
ความเป็นมา
สรุปสาระสำคัญ
หลักการของกองทุน
แนวทางการดำเนินงาน
โครงสร้างอำนาจและหน้าที่
แนวทางการฟื้นฟูและพัฒนา
ขั้นตอนการฟื้นฟู
การตรวจสอบการขึ้นทะเบียน
แผนและโครงการ
แบบนำเสนอแผน
การจัดการหนี้สินของเกษตรกร
ขั้นตอนการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
กระบวนการตรวจสอบหนี้สิน
รายชื่อคณะกรรมการ
Home



แนวทางการฟื้นฟูและพัฒนา


1.หลักคิดเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

หลักการและเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ การพัฒนาการเกษตรที่ผ่านมาเป็นการกำหนดนโยบายโดยทางราชการ ซึ่งมิได้เปิดโอกาสแสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาสภาพความเป็นอยู่และการประกอบเกษตรกรรมของตนเอง จึงทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงตามความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงจำเป็นจะต้องจัดตั้งองค์กรที่รับผิดชอบในการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างต่อเนื่องและเป็นอิสระ โดยการประสานความร่วมมือระหว่างข้าราชการในระดับกำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติการ นักวิชาการ และเกษตรกร เป็นผู้กำหนดนโยบายในการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และเปิดโอกาสให้เกษตรกรที่ขาดปัจจัยในการประกอบอาชีพรวมตัวกันเป็น “ องค์กรเกษตรกร” เพื่อทำแผนโครงการในการขอรับการสนับสนุนจากกองทุน ซึ่งจะมีการจัดระบบการติดตามและประเมินผลการดำเนินการ เพื่อให้การฟื้นฟูและพัฒนาสภาพชีวิตและความเป็นอยู่เกษตรกรสัมฤทธิ์ผลตามความมุ่งหมายของการจัดให้มีกองทุน

2.การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาในเรื่อง

1)การรวมกลุ่มของเกษตรกร
2)การฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกร
3)ความรู้ในด้านเกษตรกรรมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม
4)ศักยภาพในการพึ่งพาตนเองและเกื้อกูลซึ่งกันและกันระหว่างเกษตรกร

โดยมีทิศทางที่สำคัญ คือ ความเข้มแข็งขององค์กรเกษตรกรในการพึ่งพาตนเองและเกื้อกูลซึ่งกันและกันระหว่างเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาของเกษตรกร

3.การออกระเบียบและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ

การจัดโครงสร้างและหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของกสรจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยคำนึงถึงปัจจัยและศักยภาพขององค์กรเกษตรกรที่มีอยู่แล้ว เพื่อที่จะได้ส่งเสริมและสนับสนุนองค์กร ได้ตามพัฒนาการของแต่ละองค์กรด้วยรูปแบบของการสนสนับสนุนที่หลากหลายสอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละท้องถิ่นและภูมิภาค

4.การส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาองค์กรเกษตรกร

กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสนับสนุนทางด้านวิชาการ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์และเงินทุนทั้งที่เป็นเงินให้กู้ยืม (Loans) และเงินอุดหนุน (Grants) โดยมีสัดส่วนที่เหมาะสมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนและกรอบอำนาจของกองทุนตามมาตรา 8 และที่มาของกองทุนอันประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน

1)เงินอุดหนุนประจำปีจากรัฐบาล
2)ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
3)เงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการบริจาค
4)งบประมาณของหน่วยงานมี่เกี่ยวข้องจากกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
5)แหล่งทุนหรือการกู้ยืมจากแหล่งเงินกู้อื่น ๆ

5.องค์กรเกษตรกร

มีความหมายครอบคลุมลักษณะองค์กร 2 ประเภท คือ

1)ประเภทกลุ่มหรือคณะของเกษตรกร เป็นกลุ่มเดี่ยว ๆ
2)ประเภทเครือข่ายของกลุ่มหรือคณะของเกษตรกรเป็นเครือข่ายพื้นที่หรือเนื้อหาของกลุ่ม

ซึ่งมีลักษณะทั้งที่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นนิติบุคคล คือ

(1)เป็นนิติบุคคลที่มีกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร มูลนิธิและสมาคม
(2)ไม่เป็นนิติบุคคลที่มีรูปแบบเป็นกลุ่ม ชมรม เครือข่าย องค์กรการเงิน กลุ่มออมทรัพย์ที่มีสมาชิกรวมกันไม่น้อยกว่า 50 คน

6.นโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร

การแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรต้องดำเนินการไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูและพัฒนาโดยสภาพการเป็นหนี้ มี 2 ประเภท คือ หนี้เกษตรกรรายบุคคล และหนี้ของสถาบันเกษตรกรเป็นหนี้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1)หนี้ในระบบ หมายถึง หนี้ที่เกิดจากการกู้ยืมสถาบันการเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินของเกษตรกร หรือหนี้ที่เกิดจากโครงการที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐสนับสนุนและล้มเหลว
2)หนี้นอกระบบ
หมายถึง หนี้อื่นที่ไม่ใช่หนี้ในระบบอันเกิดจากการกู้ยืมเงินโดยมีหลักประกันหนี้ ทั้งประเภทขายฝาก จำนอง และถูกยึดเป็นหลักค้ำประกันการกู้ยืม

การกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหากาหนี้ของเกษตรกร นโยบายของรัฐจะต้องมีความชัดเจนมาตราและเครื่องมือต้องถูกกำหนดขึ้น เช่น ให้มีกองทุนจัดการหนี้ของเกษตรกร คณะกรรมการจัดการหนี้เกษตรกร สำนักจัดการหนี้ของเกษตรกร โดยได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหาหนี้ของงเกษตรกรอย่างเป็นระบบและเกิดความเป็นธรรม โดยดำเนินการ

(1)หนี้ในระบบ หนี้ที่ผ่านการตรวจสอบและจัดชั้นหนี้แล้วเกษตรกรที่เข้าสู่กองทุนฟื้นฟูควรได้รับการช่วยเหลือโดยการปรับโครงสร้างหนี้ตามสภาพและความเป็นจริง เช่น

-การยกเลิกหนี้หรือจำหน่ายหนี้สูญ
-การงดคิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และการผัดผ่อนการชำระหนี้จนกว่าการฟื้นฟูจะบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนและโครงการ

(2)หนี้นอกระบบ องค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการรับคำร้องแก้หนี้นอกระบบของเกษตรกร ตรวจสอบมูลหนี้ ข้อเท็จจริง หลักประกันที่จำนอง ขายฝาก และดำเนินการช่วยเหลือตามกลไกการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐที่มีอยู่ โดยกำหนดให้มีเงื่อนไขระยะเวลา ในการดำเนินการ

หนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบ โดยนโยบายและมาตรการของรัฐควรเปิดโอกาสให้เกษตรกรที่เป็นหนี้ และอยู่ในระบบเตรียมการฟื้นฟูได้ยื่นคำร้องขอเพื่อการแก้ไขหนี้ของเกษตรกรต่อองค์กรที่กำหนดเกษตรกรที่เข้าสู่กระบวนการกองทุนฟื้นฟู หนี้สินที่ผ่านแล้ว ให้โอนทั้งหนี้และทรัพย์สินของเกษตรกรมาเป็นหนี้ของกองทุนภายใต้การอุดหนุนของรัฐ ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาการเป็นหนี้กองทุนและขณะอยู่ระหว่างการฟื้นฟู เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกร ไม่มีสิทธิ์ก่อหนี้กับบุคคลอื่นใดจนกว่าจะผ่านพ้นการฟื้นฟูตามแผนและโครงการที่กองทุนสนับสนุน

7.การกระจายการ สนับสนุนองค์กรเกษตรกร

กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ควรเร่งส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรตามความจำเป็นเร่งด่วน มีหลักยึดจากกลุ่มผู้ด้อยโอกาส และสภาพรวมของข้อมูลทางเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่ โดยมีองค์ประกอบในการจัดสรร ดังนี้ คือ

-จำนวนเกษตรกรของแต่ละจังหวัด คิดเป็นสัดส่วน 30 % ของทั้งหมด
-ปริมาณหนี้สิน
ของเกษตรกรของแต่ละจังหวัด คิดเป็นสัดส่วน 30 % ของทั้งหมด
-ขนาดการถือครองที่ดิน
โดยเฉลี่ยของครอบครัวเกษตรกรแต่ละจังหวัดคิดเป็นสัดส่วน 20 % ของทั้งหมด
-รายได้เฉลี่ยของครอบครัวเกษตรกรของแต่ละจังหวัด คิดเป็นสัดส่วน 20 % ของทั้งหมด

 
Send mail to CompanyWebmaster with questions or comments about this web site.
Last modified: