![]() ![]() |
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดบุรีรัมย์ |
![]() |
|
![]() |
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
เป็นองค์กรของรัฐมีสถานภาพตามกฎหมายเป็นนิติบุคคล
โดยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542
ซึ่งตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวได้มีวัตถุประสงค์หลัก คือ
การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างมีเกียรติ
ศักดิ์ศรี โดยผ่านการดำเนินการของกลุ่มหรือองค์กรเกษตรกร 1. หนี้เกิดจากโครงการส่งเสริมของรัฐ คือ หนี้จากโครงการ 4 ประสานเดิม ได้แก่
1.2
โครงการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
โดยมีหม่อนพันธุ์ดีและไหมลูกผสม 2. หนี้ที่เกิดจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คือ หนี้ที่เกิดจากการกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส. เพื่อไปทำเกษตรกรรม 3. หนี้ที่เกิดจากสถาบันการเงิน คือ หนี้จาการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งเพื่อไปทำเกษตรกรรม 4. หนี้ที่เกิดจากสถาบันการเงินของเกษตรกร คือ หนี้จากการกู้ยืมเงินจากสหกรณ์การเกษตรหรือกลุ่มองค์กรที่เกิดขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ เพื่อไปทำเกษตรกรรม 5. หนี้ที่เกิดจากนิติบุคคลหรือคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ กำหนด ในกรณีนี้คณะกรรมการกองทุนยังมิได้กำหนด หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ได้กำหนดสภาพแห่งหนี้ออกเป็นดังนี้ คือ 1. หนี้ปกติ คือ หนี้ที่ลูกหนี้ยังคงสามารถปฏิบัติตามสัญญาแห่งหนี้ 2. หนี้ผิดนัดชำระ คือ หนี้ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาแห่งหนี้แล้วติดกัน เจ้าหนี้ยังไม่ได้ดำเนินการตามสิทธิในกฎหมาย 3. หนี้ทวงถาม คือ หนี้ซึ่งลูกหนี้ผิดนัดตามสัญญาแห่งหนี้ แล้วเจ้าหนี้จะได้ใช้สิทธิทางศาล 4. หนี้เร่งด่วน คือ 4.1 หนี้ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในศาล 4.2 หนี้ที่ถูกบังคับคดี ได้แก่ 4.2.1 หนี้อยู่ระหว่างรอการขายทอดตลาด 4.2.2 หนี้ที่ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว - การดำเนินการจัดการหนี้ให้เกษตรกรตามแนวทางของกองทุนฟื้นฟูฯ มีดังนี้ 1) เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ต้องขึ้นทะเบียนหนี้ 2) เมื่อรับขึ้นทะเบียนหนี้แล้ว สำนักงานจัดการหนี้ของเกษตรกรจะตรวจสอบหลักฐานความมีอยู่จริงของหนี้ และหลักประกันที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วแยกประเภทหนี้ 3) เกษตรกรที่เป็นหนี้ในโครงการส่งเสริมของรัฐ เมื่อดำเนินการแล้วไม่ประสบความสำเร็จโดยมิใช่ความผิดของเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูฯ จะรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และรัฐจะจัดงบประมาณแผ่นดินเข้าสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ 4) เกษตรกรที่เป็นหนี้ที่มิใช่โครงการส่งเสริมของรัฐ เมือคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรอนุมัติโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ กองทุนฟื้นฟูฯ จะรับชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน - การดำเนินการรับชำระหนี้ให้เจ้าหนี้แทนเกษตรกรมี 2 กรณี 1) กรณีซื้อจากเจ้าหนี้โดยตรง 2) กรณีเข้าประมูลซื้อทรัพย์ตามประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อขายทอดตลาด แต่ทั้งนี้ต้องผ่านกระบวนการต่อรองเพื่อลดหนี้เงินกู้ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ และเป็นไปตามระเบียบต่างๆ ว่าด้วยการจัดการหนี้ของเกษตรกร - การดำเนินการของกองทุนฟื้นฟูฯ หลังการจัดการหนี้ 1) เมื่อกองทุนฟื้นฟูฯ รับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่ของเกษตรกรแล้ว ทรัพย์สินของเกษตรกรที่ใช้เป็นหลักประกันเจ้าหนี้จะตกเป็นของกองทุนฟื้นฟู 2) เกษตรกรซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ เข้ารับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แทน จะต้องทำแผนโครงการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูชีวิต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกลุ่ม / องค์กร 3) ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันซึ่งตกเป็นของกองทุนฟื้นฟูฯ ตามข้อ 1 เกษตรกรจะได้รับคืนโดยการเช่าซื้อหรือซื้อคืนไปจากกองทุนฟื้นฟูฯ โดยมีระยะเวลาชำระค่าเช่าซื้อหรือซื้อคืนไปภายในระยะเวลา 20 ปี 4) การชำระค่าเช่าซื้อหรือซื้อคืนทรัพย์ หลักประกันตามข้อ 3 หากกองทุนฟื้นฟูฯ ลดหนี้ ปลดหนี้ ให้เกษตรกรผู้นั้นจะต้องตราเป็นรากฤษฎีกาแล้วรัฐต้องจัดสรรงบประมาณอุดหนุนส่วนที่กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องรับภาระค่าใช้จ่าย กองทุนฟื้นฟูฯ และสมาชิกเกษตรกรที่เกี่ยวข้องในกิจการใดที่กฎหมายกำหนดให้จดทะเบียนในอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ให้กองทุนฟื้นฟูฯ และสมาชิกเกษตรกรได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากร โดยการนี้ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามประมวลรัษฎากร การดำเนินการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาหนี้เร่งด่วน (ถูกดำเนินคดีหรือถูกบังคับคดี) ในระยะที่รอการจัดการหนี้ให้แก่เกษตรกรที่ประสบสภาวะกรณีหนี้เร่งด่วน (ถูกดำเนินคดีหรือถูกบังคับคดี)งกองทุนฟื้นฟูฯ โดยสำนักงานสาขาจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินการดังนี้
|